ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ananas comosus (L.) Merr. ชื่อสามัญ : Pineapple วงศ์ : Bromeliaceae
ชื่ออื่น : แนะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ขนุนทอง ยานัด ย่านนัด (ใต้) บ่อนัด (เชียงใหม่) เนะซะ (กะเหรี่ยงตาก) ม้าเนื่อ (เขมร) มะขะนัด มะนัด (เหนือ) หมากเก็ง (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน) สับปะรด (กรุงเทพฯ) ลิงทอง (เพชรบูรณ์)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุสูง 90-100 ซม. ลำต้นใต้ดิน ปล้องสั้น ไม่แตกกิ่งก้านมีแต่กาบใบห่อหุ้มลำต้น ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเวียนถี่ ไม่มีก้านใบ ใบเรียวยาว โคนใบเป็นกาบหุ้มลำต้น ปลายแหลม ขอบใบมีหนาม แผ่นใบสีเขียวเข้มและเป็นทางสีแดง ด้านล่างมีนวลแป้งสีขาว ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกเรียงอัดกันแน่นรอบแกนช่อดอก ก้านช่อใหญ่แข็งแรง กลีบดอก 3 กลีบ ด้านบนสีชมพูอมม่วง ด้านล่างสีขาว เกสรเพศผู้ 6 อัน เรียบกัน 2 ชั้น ผล เป็นผลรวมรูปรี โคนกว้าง ปลายสอบ มีใบสั้นเป็นกระจุกที่ปลายผล เรียกว่าตะเกียง ผลสุกสีเหลืองสดและฉ่ำน้ำลักษณะของสับปะรด
รูปลักษณะ ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 90-100 ซม. มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ใบเดี่ยวเรียงสลับ ซ้อนกันถี่มากรอบต้น กว้าง 6.5 ซม. ยาวได้ถึง 1 เมตร ไม่มีก้านใบ ดอกช่อออกจากกลางต้น มีดอกย่อยจำนวนมาก ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีใบเป็นกระจุกที่ปลาย
สับปะรดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เมื่อเจริญเป็นผลแล้วจะเจริญต่อไปโดยตาที่ลำต้นจะเติบโตเป็นต้นใหม่ได้อีก และสามารถดัดแปลงเป็นไม้ประดับได้อีกด้วย
สับปะรดแบ่งออกตามลักษณะความเป็นอยู่ได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือพวกที่มีระบบรากหาอาหารอยู่ในดิน หรือเรียกว่าไม้ดิน, พวกอาศัยอยู่ตามคาคบไม้หรือลำต้นไม้ใหญ่ ได้แก่ ไม้อากาศต่าง ๆ ที่ไม่แย่งอาหารจากต้นไม้ที่มันเกาะอาศัยอยู่ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ประดับ, และพวกที่เจริญเติบโตบนผาหินหรือโขดหิน
ส่วนสับปะรดที่เราใช้บริโภคจัดเป็นไม้ดิน แต่ยังมีลักษณะบางประการของไม้อากาศเอาไว้ คือ สามารถเก็บน้ำไว้ตามซอกใบได้เล็กน้อยมีเซลล์พิเศษสำหรับเก็บน้ำเอาไว้ในใบ ทำให้ทนทานในช่วงแล้งได้
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
สับปะรดต้องการอากาศค่อนข้างร้อนอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 23.9-29.4℃ ปริมาณน้ำฝนที่ต้องการอยู่ในช่วง 1,000-1,500 มิลลิเมตรต่อปี แต่ต้องตกกระจายสม่ำเสมอตลอดปี และมีความชื้นในอากาศสูง
สับปะรดชอบขึ้นในดินร่วน,ดินร่วนปนทราย,ดินปนลูกรัง,ดินทรายชายทะเล และชอบที่ลาดเท เช่น ที่ลาดเชิงเขา สภาพความเป็นกรดด่าง (pH) ของดินควรเป็นกรดเล็กน้อย คือตั้งแต่ 4.5-5.5 แต่ไม่เกิน 6.0
ฤดูกาลของสับปะรด
สับปะรดเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงเนื่องมาจากมีปริมาณของวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยไฟเบอร์ที่มีอยู่มากมายในผลสับปะรด นอกจากนี้แล้ว สับปะรดยังมีสรรพคุณในทางยามากมายหลายอย่าง อาทิเช่น การช่วยย่อยอาหาร เสริมสร้างการดูดซึมอาหารของร่างกาย การลดความร้อนของร่างกาย นอกจากนี้แล้วยังได้มีการศีกษาวิจัยจนกระทั่งพบว่าผู้ที่รับประทานสับปะรดเป็นประจำแล้ว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไตอักเสบและ
โรคความดันสูงอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการบวมน้ำของร่างกาย ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยลดความร้อนของ
ร่างกาย และช่วยลดอาการกระสับกระส่ายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ร่างกาย และช่วยลดอาการกระสับกระส่ายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรดหวานหนัก 100 กรัม
พลังงาน | (Energy) | 54 | แคลอรี |
ไขมัน | (Fat) | 0.3 | กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | (Carbohydrate) | 14 | กรัม |
เส้นใย | (Fiber) | 0.5 | กรัม |
โปรตีน | (Protein) | 0.4 | กรัม |
แคลเซียม | (Calcium) | 22 | มิลลิกรัม |
ฟอสฟอรัส | (Phosphorus) | 8 | มิลลิกรัม |
เหล็ก | (Iron) | 0.4 | มิลลิกรัม |
ไนอาซิน | (Niacin) | 0.2 | มิลลิกรัม |
วิตามินเอ | (Vitamin A) | 15 | หน่วยสากล |
วิตามินบี 1 | (Vitamin B1) | 0.09 | มิลลิกรัม |
วิตามินบี 2 | (Vitamin B2) | 0.04 | มิลลิกรัม |
วิตามินซี | (Vitamin C) | 1 | มิลลิกรัม |
<!--[endif]-->
<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น