วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สับปะรดกับความงาม

      ถ้าเอ่ยถึงผลไม้ที่มีพันตา ทุกคนก็ร้องอ้อนั่นก็คือ สับปะรด ผลไม้ที่มีรสชาติหวาน แต่ถ้าทานเยอะๆก็อาจจะกัดลิ้นของเราได้ แต่ผลไม้ชนิดนี้ก็มีประโยชน์กับร่างกายของเรามากมาย   สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และคุณค่าต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อ ช่วยในการดูดซึมอาหาร แก้กระหาย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ถ้าทานสับปะรดเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคไตอักแสบ ความดันโลหิตสูง ช่วยรักษาโรคลำไส้ และบรรเทาอาการท้องผูกด้วย ประโยชน์ของสับปะรดมีมากมายเหลือเกิน แต่สับปะรดก็ยังสามารถนำมาใช้ในเรื่องความสวยความงามได้ด้วย อย่ารอช้าไปดูสูตรความงามกันเลยดีกว่า


ลดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยสับปะรด
      ใครที่ชอบทานสับปะรด ทราบหรือไม่ว่า สับปะรดสามารถลดริ้วรอยบน
ใบหน้าได้วันนี้เรานำเกร็ดความรู้มาฝากกัน
วิธีทำ คือ คั้นสับปะรดสดๆ เอาแต่น้ำมาชโลมพอกที่ใบหน้า
ยกเว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก
ทิ้งไว้ประมาณ 15 - 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สูตรนี้เหมาะกับสาวๆ ที่มีใบหน้ามัน
และนอกจากนี้น้ำสับปะรดยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำต่างๆ บนใบหน้าได้ดี
ข้อแนะนำวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เป็นสิว
เพราะไม่เช่นนั้น สับปะรดอาจจะกัดหน้าได้
ถ้าอยากมีใบหน้าที่สวยใส ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้
สูตรครีมขัดผิว (เหมาะกับทุกสภาพผิว) ส่วนผสม
  • เนื้อสับปะรด 1 ถ้วย
  • นมสด ½ ถ้วย
  • ขมิ้นชันผง 2 ช้อนชา
  • รำข้าว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ  ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีใช้  ราดน้ำให้ตัวเปียก ทาครีมให้ทั่ว ใช้มือขัดถูเบาๆ ทิ้งไว้ 20 นาที
หลังจากนั้นนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆ ถูเอาครีมออกแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
ทำสัปดาห์ละครั้งผิวกายจะเนียนนุ่มขาวใสเปล่งปลั่ง
สูตรรักษาจุดด่างดำ

จุดด่างดำต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดี ข้อแนะนำวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เป็นสิวเพราะ
ไม่เช่นนั้นสับปะรดอาจจะกัดหน้าได้
วิธีทำ คือ คั้นสับปะรดสด ๆ เอาแต่น้ำมาชโลมพอกที่ใบหน้า ยกเว้นบริเวณรอบดวงตา
และริมฝีปากทิ้งไว้ประมาณ 15 - 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำ 2-3 ครั้ง
ต่ออาทิตย์ก็พอถ้าอยากมีใบหน้าสดใส ไร้ริ้วรอย ไม่หมองคล้ำก็ลองนำไปทำกัน
ดูแล้วจะรู้ได้ถึงความแตกต่าง
สูตรสวยลึกล้ำจากธรรมชาติ 
"น้ำสับปะรด ดูแลมือและเล็บนุ่มเนียนสวย"

สรรพคุณช่วยให้มือของคุณจะนุ่มละมุนและมีความชุ่มชื่น เล็บมือมีสุขภาพดีขึ้น
ไม่แห้งเปราะง่ายหรือซีดเหลือง หนังรอบขอบเล็บก็จะนุ่มไม่แข็งกระด้าง

     การมีมือและเล็บที่สวยสุขภาพดีน่าสัมผัส มีความสำคัญไม่แพ้ความนุ่มสวยของผิว
ส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย แน่นอนที่สุดยังช่วยทำให้คุณดูดีมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น สิ่งที่สำคัญคุณ
จะต้องให้ความสำคัญกับมือและเล็บของคุณ อย่ามองข้ามไปทีเดียว
ต้องดูแลไปพร้อม ๆ กับการใช้ครีมโลชั่นบำรุงผิวมือจะเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยม
แต่ถ้าจะมีสูตรบำรุงผิวมือและเล็บของคุณแบบพิเศษที่มาจากธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีกนิด
ก็จะช่วยชะลอความเหี่ยวย่นและแข็งกระด้างของผิวส่วนนั้นได้ดียิ่งขึ้น



สูตรสับปะรดช่วยลดน้ำหนัก
            สับปะรดสามารถทานได้หลายแบบ เช่น สับปะรดสด สับปะรดกวน แช่อิ่ม แยมสับปะรด สับปะรดกระป๋อง แกงต่างๆที่มีสับปะรดเป็นส่วนประกอบ แต่ที่นักโภชนาการแนะนำว่าปะรดยังเป็นผลไม้ที่ดีที่สุด คือสับปะรดสดๆที่ยังไม่ผ่านกระบวนการใดๆ สับปะรดยังเป็นผลไม้ที่เหมาะกับคนหลายๆ กรุ๊ปเลือด เช่นกรุ๊ปโอ กรุ๊ปบี  ที่ควรทานสับปะรดเพื่อช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยต้านมะเร็ง และเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจ
     เวลาที่กินสับปะรด นอกจากจะได้ความอร่อยแล้ว สับปะรดยังมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย สับปะรดมีกรดในการช่วยย่อยอาหารหลายคนที่ทานอาหารมื้อหนักๆ อย่างหมูกระทะ เนื้อกระทะ  อาหารญี่ปุ่น มื้อใหญ่ๆ มักจะทานสับปะรดตามเพื่อให้ช่วยย่อยอาหารท้องจะได้ไม่อืด การขับถ่ายสะดวก กรณีเดียวกับที่เราเอาเนื้อไปหมักกับสับปะรด เพื่อให้เนื้อนุ่ม
    การกินสับปะรดกับอาหารจานเนื้อนั้น นอกจากเพื่อให้ไฟเบอร์หรือเส้นใยผลไม้จากสับปะรดช่วยในการย่อยอาหาร และยังทำให้อิ่มเร็วนอกเหนือจากคุณค่าของวิตามิน แร่ธาตุ ซึ่งในสับปะรด 100 กรัม ให้เส้นใยหรือไฟเบอร์ 1.2 กรัม มีวิตามินกับโพแทสเซียมสูง
    ในเนื้อสีเหลืองของสับปะรด ยังมีสารสีเขียว คลอโรฟิลล์และโบรมีเลน  ตัวหลังคือเอนไซม์ชนิดหนึ่ง (Enzymes ตัวเร่งปฏิกิริยาต่างๆในร่างกาย) โบรมีเลนพบมากในแกนสับปะรด สามารถย่อยโปรตีนได้ ในเนื้อสับปะรดก็มีบ้างแต่น้อยกว่า และมักสูญสลายจากการปรุงด้วยความร้อนมากๆ
     การกินสับปะรดสดๆ จะได้เนื้อ ได้น้ำ และเอนไซม์โบรมีเลนอย่างเต็มที่ แต่การกินสับปะรดเพื่อลดความอ้วนนั้น คงจะตั้งหน้าตั้งตากินแต่สับปะรดอย่างเดียวไม่ได้ เพราะร่างกายต้องการสารอาหารอย่างอื่นด้วย สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทำควบคู่กันไป คือ การออกกำลังกาย จึงจะได้ผลดีและไม่มีผลข้างเคียง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น