วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กระดาษใยสับปะรด

    ผลิตภัณฑ์อีกอย่างหนึ่งที่ได้จากสับปะรด คือกระดาษใยสับปะรด
ขั้นตอนการทำเริ่มจากนำใบสับปะรดไปล้างให้สะอาดแล้วต้มจนกลายเป็นเยื่อ จากนั้นล้างทำความสะอาดอีกครั้ง ผสมสีที่ต้องการ ก่อนที่จะนำไปกระจายเส้นใยในเครื่องตีเยื่อ หลังจากนั้นใช้ตะแกรงช้อนเยื่อที่กระจายอยู่ให้เป็นแผ่น ตากแผ่นกระดาษในโรงเรือนที่มีหลังคาเพื่อให้ถูกแสงแดดเพียง ๖๐ เปอร์เซนต์เพราะหากตากแดดจัด ๆ แล้วอาจทำให้กระดาษย่น ไม่เรียบเสมอตลอดแผ่น และเป็นการเลี่ยงไม่ให้กระดาษเปียกฝนในขณะตาก เนื่องจากชุมพรเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีฝนตกชุก จึงต้องตากกระดาษในโรงเรือนประมาณ ๒ วันจนแห้งสนิท แล้วลอกออกจากตะแกรง ก็จะได้กระดาษใยสับปะรดที่ทั้งเหนียวและทนทานมีคุณภาพดี แตกต่างจากกระดาษทำมือชนิดอื่น ๆ
กระดาษใยสับปะรดสารพัดสีที่เราเห็นเป็นแผ่น ๆ ยังสามารถนำไปผลิตสินค้าแปรรูปประเภทอื่น ๆ ได้อีก เช่น การ์ดอวยพร กล่องของขวัญทรงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม และรูปหัวใจ กล่องใส่กระดาษโน๊ต แฟ้มเอกสาร อัลบัมใส่รูป เชือก โคมไฟ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้กระดาษใยสับปะรดตกแต่งอย่างกล่องไม้ ตู้เก็บกุญแจ ที่แขวนพวงกุญแจ และกล่องใส่ดินสอ
ผ้าใยสับปะรด
     สำนวนที่ว่าไม่เป็นสับปะรด มาจากคำว่า "สรรพรส" หมายถึงหลายรส มากรส ถ้ามีใครมาพูดถึงอาหารที่เราทำว่า รสชาดไม่เป็นสับปะรดเลย นั่นก็หมายถึง หารสชาดความอร่อยไม่ได้ หรือทำอะไรไม่เป็นสับปะรดเลย ก็หมายถึงทำอะไร ก็ไม่ได้เรื่องเลย
    แต่สับปะรดในวันนี้ ไม่ใช่แค่เพียงปอกเปลือกแล้วกินเนื้ออย่างเดียว แต่เศษเหลือทางการเกษตร อย่างใบ   สับปะรด ก็มีประโยชน์และมีราคาสูง เมื่อทำการแปรรูปเป็นเส้นใยที่สามารถถักทอเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้มากมาย ความคิดของการถักทอเส้นใยจากใบสับปะรดนี้ มาจากภูมิปัญญาชาวพื้นเมืองประเทศฟิลิปปินส์ ได้มีการนำเอาเส้นใยจากใบสับปะรดมาทอเป็นผ้าบารอง (Balong หรือ Pina) ซึ่งเป็นเสื้อผ้าประจำชาติของประเทศฟิลิปปินส์ และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมายาวนาน เราสามารถพบเห็นแปลงสับปะรดอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนสับปะรดที่ปลูกเป็นการค้าแบ่งได้เป็น 5 กลุ่ม โดยแบ่งตามรูปร่างของผลและใบ คือ Cayenne, Queen, Pernambuco, Spaish และ Mordilona ส่วนพันธุ์ที่ปลูกอยู่ในประเทศไทย จะพบอยู่ 3 กลุ่ม คือ Cayenne เป็นกลุ่มที่นิยมปลูกมากที่สุด ทั้งเพื่อใช้ในการบริโภคผลสดและใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์ Smooth Cayenne หรือปัตตาเวีย กลุ่ม Queen ได้แก่พันธุ์ภูเก็ต และกลุ่ม Spanish ได้แก่พันธุ์อินทรชิต และพันธุ์ขาว ซึ่งมีการปลูกปริมาณน้อยและในกลุ่มนี้ประเทศฟิลิปปินส์ได้ใช้เป้นวัตถุดิบในการผลิตผ้าบารอง
   คุณสุชาดา อุชชิน แห่งหน่วยปฏิบัติการเทคโนโลยีสิ่งทอ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการศึกษาค้นคว้าการแปรรูปผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากใบสับปะรด และพบว่าใบสับปะรดที่นำมาใช้ในการผลิตเส้นใยเพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอ ควรมีอายุ 1-1.5 ปี ถ้าอ่อนไปเส้นใยที่ได้ก็จะไม่แข็งแรง และสั้น ส่วนใบที่แก่เกินไปก็จะหยาบและแข็ง การเก็บเกี่ยวจะตัดจากต้นที่ตัดผลไปแล้ว โดยทั่วไปสามารถเก็บใบสับปะรดได้ 2.7 กิโลกรัมต่อต้น ใบที่เหมาะสมในการแยกเส้นใยควรยาวประมาณ 80-100 เซนติเมตร เขียวสด สมบูรณ์ไม่มีสีเหลือง หรือสีน้ำตาล หรือเป็นแผล และจะต้องทำการขูดให้เสร็จหลังจากการตัด 24 ชั่วโมง ส่วนการขูดเส้นใยจากใบสับปะรดเพื่องานสิ่งทอทำได้ดังนี้ ขูดด้วยมือ หมักหรือแช่ฟอก ขูดด้วยเครื่องขูดเส้นใยสับปะรด และต้มด้วยสารเคมี
     เมื่อได้เส้นใยสดจากใบสับปะรดแล้ว จะต้องทำการล้างคลอโรฟิลออกด้วยน้ำเปล่าจนสีไม่เปลี่ยน จะได้เส้นใยสีเขียวอ่อน แล้วจึงนำไปตากในที่ร่ม หรือจะล้างด้วยผงซักฟอกโดยการนำเส้นใยมาล้างด้วยน้ำผสมด้วยผงซักฟอก 3 กรัมต่อลิตร แกว่งไปมาจนไม่เปลี่ยนสี แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด ก็จะได้เส้นใยสีขาวนวล แล้วนำไปตากในที่ร่ม ในเส้นใยที่ขูดด้วยเครื่องจะมีเส้นใยที่ใหญ่และติดกันเป็นแพ จำ เป็นต้องปรับปรุงให้เส้นใยแยกเป็นเส้นใยเดี่ยว มีขนาดเล็กลง และอ่อนนุ่มพอที่จะนำเข้าสู่กระบวนการปั่นได้ การแยกเส้นใยออกเป็นเส้นใยเดี่ยว คือการขจัดสารอื่นที่ไม่ใช่เซลลูโลส เช่น เพคติน ลิกนิน ออกจากเส้นใย โดยทำได้ 2 วิธี คือการขจัดกัม ซี่งมีลักษณะเป็นกาวหรือยาง และวิธีการฟอกขาว ก็จะได้เส้นใยที่พร้อมจะแปรรูปต่อไป ราคาเส้นใยจากใบสับปะรดจะมีราคาสูงถึง 700 บาทต่อกิโลกรัม นับว่าเป็นรายได้เสริมให้กับเกษตรกรหลังจากเก็บผลผลิตสับปะรดไปแล้วได้เป็นอย่างดิ
    การผลิตผ้าบารอง เป็นการทอจากเส้นใยสับปะรดที่ขูดด้วยมือ แล้วนำมาผูกปมต่อกันเป็นเส้นยาว แล้วจึงทอเป็นผืนผ้า เช่น ผ้าคลุมไหล่ และผืนผ้าเอนกประสงค์ที่มีลักษณะเป็นผ้าโปร่ง บาง เนื้อผ้าค่อนข้างแข็งคงรูป ในปัจจุบันประเทศฟิลิปปินส์สามารถผลิตผ้าเส้นใยสับปะรด 100 % ได้ คือใช้เส้นด้ายสับปะรดเป็นเส้นยืนและเส้นพุ่ง และมีการใช้ไหมตกแต่งผ้าหรือเสริมความแข็งแรงของผ้าเป็นช่วง ๆ ตามแนวเส้นยืน และยังคงมีการทอเส้นใยสับปะรดที่เมือง Bacolod City ในเกาะ Negros occidental ของประเทศฟิลิปปินส์ ซี่งผู้ผลิตได้สงวนและอนุรักษ์เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของหมู่บ้านเท่านั้น ไม่มีการเปิดเผยสู่คนภายนอก ราคาของผ้าทอใยสับปะรดนี้สูงมาก เช่น ผ้าคลุมไหล่ น้ำหนัก 40 กรัม ราคาประมาณ 1,800 บาท ถ้าคำนวณมูลค่าเพิ่มของเส้นใยแล้ว สามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึง 45,000 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนในประเทศไทยมีการผลิตผ้าหัตถกรรม ซึ่งสามารถทอใยสับปะรดได้ 3 รูปแบบ คือ ทอจากด้ายปั่นด้วยมือ หรือด้ายปั่นจากดรงงาน ทอจากเส้นใยสับปะรดเดี่ยว และทอจากกลุ่มเส้นใยสับปะรด
        การทอผ้าใยสับปะรดแบบหัตถกรรมพื้นเมืองของไทย โดยใช้เส้นยืนเป็นไหมหรือฝ้าย และเส้นใยสับปะรดเป็นด้ายพุ่ง จะทอโดยการสอดเส้นพุ่งระหว่างเส้นด้ายยืน สำหรับเส้นพุ่งที่เป็นเส้นด้ายจากเส้นด้ายปั่นผสมเชิงหัตถกรรม สามารถทอได้หน้ากว้างตามขนาดของกี่ และสามารถทำได้หลายแบบ เช่น ลายขัด ลายผ้าโปร่ง ลายไทย ลายลูกแก้ว เป็นต้น
     การย้อมสีเส้นใยสับปะรดสามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก โดยต้องทำความสะอาดและฟอกขาวเส้นใยก่อน เพื่อให้เส้นใยสามารถติดสีดี ซึ่งใช้ได้ทั้งสีเคมี เช่น สีไดเร็กซ์ สีรีแอคทีฟ ส่วนสีจากธรรมชาติ ได้แก่สีจากครั่ง แก่นขนุน แกแล ฝาง สีเสียดไทย ประดู่ ดอกคำฝอย สมอไทย และสมอภิเภก เป็นต้น
     ผลิตภัณฑ์เส้นใยสับปะรดมีมากมาย เช่น ผ้ารองจาน พรม กระเป๋า และเครื่องนุ่งห่มที่สวยงาม นอกจากนั้นยังสามารถผลิตเป็นกระดาษจากใยสับปะรดได้อีกด้วย

                                               
วิธีเลือกซื้อสับปะรดอย่างถูกวิธี
สับปะรดถ้าเลือกไม่ดีก็มีสิทธิ์เน่าและเสียได้เหมือนกันนะคะ และถ้ายิ่งอยากได้สับปะรดที่เนื้อดี หวานฉ่ำด้วยแล้วล่ะก็ต้องรู้จักเลือกแล้วล่ะค่ะ วันนี้เรามีกลวิธีดีๆ ในการเลือกซื้อสับปะรดมาฝากคุณแม่บ้านเราไปดูกันเลยค่ะ
วิธีที่เรานำมาฝากกันคือการดีดและดม เมื่อดีดแล้วเสียงแปะๆ ละก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นเสียงโป๊กล่ะก็อย่าซื้อมาเชียว ส่วนการดมถ้าดมแล้วมีกลิ่นหอมก็ทานได้เลยทันทีนะคะ แต่ถ้าอยากเก็บไว้ทานวันต่อไปก็เลือกกลิ่นที่หอมน้อยลงมาหน่อย วิธีนี้รับรองว่าคุณจะได้สับปะรดหวานฉ่ำถูกใจคุณอย่างแน่นอนค่ะ





วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เมนูสับปะรดแสนอร่อย

ข้าวอบสับปะรด ข้าวอบสับปะรด เมนูที่หน้าตาสวยงามแต่แฝงไปด้วยความอร่อยจากเครื่องต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง ไก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แฮม หมูหยอง ที่ใส่ผสมลงไปในข้าวอบและที่ขาดไม่ได้คือความหวานอมเปรี้ยวของสับปะรดนั้นเอง
ส่วนประกอบข้าวอบสับปะรด 
ข้าวสวย 2 ถ้วย    สับปะรด 1 ลูก (ควานเนื้อออก )
แฮม 100 กรัม (หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ)
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 50 กรัม
หมูหยอง 2 ชต.
กุ้ง 10 ตัว (แกะเปลือก)
เนยจืด 50 กรัม
กระเทียมสับ 1 ชต.
ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ชต.                    
น้ำตาลทราย 1 ชต.
พริกไทยป่น 1/2 ชช.
ต้นหอมซอย
พริกหวานหั่นเต๋า 3 ชต.
วิธีการทำ
1. ผัดเนยและกระเทียมให้หอม เติมกุ้ง , เนื้อไก่ลงไปผัดให้เข้ากัน จนเนื้อสัตว์สุกทั่วกันดี
2. เติมแฮมตามลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว , น้ำตาลทราย , พริกไทยป่น
3. ต่อไปก็ค่อยเติมพริกหวาน ,ข้าวสวย ,สับปะรด,ต้นหอมซอย
4. เมื่อผัดข้าวเสร็จแล้ว ให้นำข้าวตักใส่ลูกสับปะรด จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 .ใช้เวลาในการอบเพียง 10 นาที  
5. ก่อนเสริฟ์ โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด และหมูหยอง เป็นอนเสร็จ
      พายสับปะรด
ส่วนประกอบพายสับปะรด
 แป้งขนมปัง            500    กรัม
 แป้งอเนกประสงค์   300    กรัม
 เนยสดชนิดเค็ม   150    กรัม

 เกลือป่น                3    กรัม
 น้ำเย็น                 350    กรัม
 ไข่แดงไข่ไก่           2    ฟอง
 เพสตรี้มาการีน    400    กรัม
 สับปะรดกวนปั้นเป็นก้อนกลม 300    กรัม
 
วิธีการทำ
1. ร่องแป้ง 2 ชนิดรวมกัน ใส่เนยผสมให้เข้ากันจนแป้งมีลักษณะเหมือนเม็ดถั่วเขียว
2. ผสมเกลือป่น น้ำเย็น ไข่แดงคนให้เข้ากัน ค่อยๆ พรมของเหลวใส่ส่วนผสมแป้งนวดให้เข้ากันจนเนียน คลึงแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 10×16 นิ้ว
3. วางเพสตรี้มาการีนบนแป้งให้ได้ครึ่งหนึ่งของแป้ง พับแป้งคลุมเพสตรี้มาการีนให้มิด บีบริมแป้ง 3 ด้านให้สนิท พักแป้ง 30 นาที
4. นำแป้งมาคลึงเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า พับแป้ง 3 ทบ ทำเช่นนี้ 3 ครั้ง แต่ละครั้งพักแป้ง 30 นาที
5. แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน นำส่วนที่ 1 มาคลึงให้บางหนา ¼ เซนติเมตร ตัดแป้งขนาด
1×1 นิ้ว วางไส้สับปะรดตรงกลาง ตัดแป้งจากมุมทั้ง 4 พับแป้งไปไส้ให้เป็นรูปกังหันวางในถาด อบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮด์ จนขนมกรอบเหลือแซะออกจากถาดพักไว้ให้เย็น
ส้มตำสับปะรด 
ส่วนประกอบส้มตำสับปะรด
1. สับปะรด 300 กรัม
2. น้ำตาลปี๊บ 1 ชต.
3. น้ำปลา 1 ชต.

4. กุ้งแห้ง 1 ชต.
5. กระเทียมกลีบเล็ก 5 กลีบ
6. พริกขี้หนู 7 เม็ด
7. ถั่วลิสงคั่ว 2 ชต.
8. มะเขือเทศราชินี 8 ลูก 
วิธีการทำ... 1.หั่นแกนกลางของสับปะรดทิ้งไปและหั่นเป็นชิ้นพอคำ
2.โขลกพริก , กระเทียม ให้พอแหลก ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ,น้ำปลา คนให้เข้ากัน จากนั้นหั่นมะเขือเทศตามลงไป โขลกต่ออีกเล็กน้อย
3.เติมกุ้งแห้ง ,ถั่วลิสง ,สับปะรด คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

               แกงคั่วสับปะรดกับหอยแมลงภู่
เครื่องพริกแกงคั่ว
พริกเม็ดใหญ่แกะเม็ดออก แช่น้ำให้นิ่ม ๑๕ เม็ด (หรือมากกว่า)
ข่าหั่นเล็กๆ ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้หั่นฝอย ๑ ต้น
ขมิ้นสับเล็กๆ ๑ ช้อนชา
พริกไทย ๑ ช้อนชา
เกลือ ๑/๒ ช้อนชา
หอมแดง ๑-๒ หัว
กระเทียม ๘-๑0 กลีบ
กะปิอย่างดี ๑ ช้อนชา
หอยแมลงภู่ ๔๕0 กรัม
สับปะรดหั่นเป็นชิ้นๆ ๓/๔ กระป๋อง
หัวกะทิ ๑ ถ้วย
หางกะทิ ๒ ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ หรือน้ำตาลทรายแดง ๑ ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก ๒ ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาสำหรับปรุงรส
วิธีทำ... โขลกพริกกับเกลือให้ละเอียด จากนั้นค่อยๆใส่ส่วนผสมอื่นๆลงไป
อันได้แก่ ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ผิวมะกรูด(ถ้ามี) โขลกไปให้ละเอียดเลยนะคะ
แล้วจึงตามด้วยกระเทียม และหอมแดง และกะปิตามลำดับ
โขลกไปจนส่วนผสมละเอียดจึงตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน
โขลกพริกแห้งกับเกลือให้ละเอียดเสร็จเรียบร้อยจะได้พริกแกงหอมๆ
 นำกะทิใส่หม้อตั้งบนเตา เปิดไฟปานกลาง
พอกะทิเริ่มเดือด ก็ให้ใส่เครื่องแกงลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน
เวลาผัดกะทิกับเครื่องแกงไม่ต้องให้กะทิแตกมัน
สับปะรดปั่น 
                               
สับปะรดปั่น เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยชลออนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณดูสดใส ลดอาการ
 เกิดลมภายในร่างกาย ลดความดันในเลือด
ส่วนผสม
1. สับปะรด หั่นเป็นชิ้นเล็ก สักถ้วยเล็กๆ
2. เกลือ
3. น้ำเชื่อม 2-3 ช้อน
4. น้ำแข็งใส ใส่ตามความชอบว่าจะเย็นมากหรือน้อย
วิธีทำ...
เริ่มด้วยการ นำน้ำต้มสุกใส่เครื่องปั่น เอาเนื้อสับประรดใส่ลงไป จากนั้นเติมเกลือนิดหน่อย ใส่น้ำเชื่อม ตามด้วยน้ำแข็ง หากคุณเป็นคนรักสุขภาพ อาจนำผักมาร่วมก็ได้
นอกจากนี้ น้ำสับปรดปั่น ยังช่วยแก้อาการร้อนใน ได้อีก ทำให้ร่างกายได้รับความสดชื่น และรวมถึงช่วยให้การทำงานระบบขับถ่ายดีขึ้น ดังนั้นเราควรลองหันมาทานน้ำสับปะรดปั่น

ทอฟฟี่สับปะรด
ส่วนผสม

1.สับปะรดสับให้ละเอียด    
4  
ถ้วยตวง
2.น้ำตาลทราย     
ถ้วยตวง
3.แบะแซ    
2  
ช้อนโต๊ะ

  วิธีทำ   1.นำสับปะรดใส่ลงในกระทะพร้อมน้ำตาล  ตั้งไฟอ่อน    เคี่ยวและคนไปทางเดียวกัน
2.นำสับปะรดออก  ใส่แบะแซกวนให้เข้ากัน  กวนจนน้ำแห้ง  ปั้นเป็นก้อนได้
3.ยกลงผึ่งไว้ให้เย็น  ปั้นเป็นก้อนเล็ก  ๆ  หรือตักเป็นทอฟฟี่  1  ช้อนชา  ใส่ตรงกลางกระดาษแก้ว  รวบกระดาษแก้วหัวท้ายแต่ละข้างบิดเป็นเกลียว  ปลายกระดาษปล่อยให้กระจายออกสวยงาม

สับปะรดกวน รสชาติไม่กวนใจ
     
              สับปะรดเป็นการแปรรูปสับปะรดอีกวิธีหนึ่ง ในฤดูที่สับปะรดออกมากจนล้นตลาด เป็นการป้องกันการขาดทุนจากสับปะรดเน่าเสีย การนำสับปะรดมากวนเพื่อจำหน่ายจึงเป็นทางเลือกที่ดี ลักษณะของสับปะรดกวนที่ดีต้องมีสีเหลืองสวย รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อหยาบเล็กน้อย แห้งเหนียว และกลิ่นหอม
         อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำสับปะรดกวน คือ มีด เขียง กะละมังล้อม เครื่องขูดมะพร้าวไฟฟ้า ตาชั่ง ช้อนตวง กระทะทองเหลือง ไม้พาย ถาด หม้อ หรือเครื่องกวนไฟฟ้า
ส่วนผสม
สับปะรด                       10      กิโลกรัม
น้ำตาลทราย                  1        กิโลกรัมเช่นกัน
เกลือป่น                        1        ช้อนชา
แบะแซ                         1/     กิโลกรัม
น้ำมะนาว                     2         ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ปอกเปลือกสับปะรดเอาตาออกให้หมด แล้วสับหรือขูด
2. เอาสับปะรดที่สับแล้วบีบเอาน้ำออกบ้าง ใส่ลงในกระทะ หรือ หม้อ ใส่เกลือป่น น้ำมะนาว น้ำตาลทราย แล้วตั้งไฟปานกลาง
3. คอยกวนสับปะรดบ่อยๆ กวนเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนสับปะรดข้นใส่แบะแซแล้วกวนต่อไปจนสับปะรดเหนียวข้น จึงค่อยยกลง
4. พอสับปะรดเย็นแล้วให้ตกใส่ถุงพลาสติกไว้ หรือจะห่อด้วยกระดาษแก้วก็ได้

      ไวน์สับปะรด ชิมรสคุ้นลิ้น                         
ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่เกิน 13% นิยมทำจากผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะยม มะขาม สับปะรด โดยใช้เชื้อยีสต์หมักน้ำตาลในผลไม้เป็นเวลาประมาณ 7 วัน จนถึง 1 เดือนในบรรดาไวน์ผลไม้ ไวน์สับปะรดเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม
ส่วนผสม
1. สับปะรดลอกเปลือกสับปะรดละเอียด
2. น้ำตาลทราย
3. เชื้อยีสต์
4. น้ำสะอาด
วิธีทำ
1. ต้มสับปะรดในน้ำ โดยใช้อัตราส่วน สับปะรด 1 ส่วนต่อน้ำสะอาด 2 ส่วน ให้คั้นกากออก
2. เติมน้ำตาลโดยใช้น้ำสับปะรด 8 กิโลกรัม และน้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม
3. ต้มให้เดือดแล้วบรรจุลงในขวดปากแคบ (ขวดแม่โขง) ที่ลวกเตรียมไว้แล้ว จากนั้นปิดฝาขวดแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
4. เปิดฝาขวดแล้วนำเชื้อยีสต์ที่เตรียมไว้มาเติมลงในขวด และปิดฝาขวดด้วยสำลีหรือหลอดดักอากาศ
5. หมักไว้ 7วัน ถึง 1 เดือน จึงทำการฆ่าเชื้อยีสต์ที่เหลืออยู่ แล้วถ่ายไวน์ออกจากถังหมัก นำไปบรรจุขวดแล้วแช่เย็นเพื่อให้ไวน์ใสต่อไป การทำไวน์มีข้อควรระวังคือ ความสะอาดของเครื่องมือ และควรตรวจสอบขั้นตอนการหมักทุกขั้นตอน เพื่อป้องกันไวน์เสีย


หมูสับปะรด

ส่วนผสม
เนื้อหมูส่วนสันอก                1/2        กิโลกรัม
เกลือป่น                                1          ช้อนช้า
พริกไทยป่น                          1/4       ช้อนช้า     
ผงปรุงรส                              1/4       ช้อนช้า
ไข่ไก่ตีพอแตก                      1           ฟอง
สับปะรด                               1/2        ผลเล็ก

ผงขนมปังป่น                        1/2       ถ้วยตวง
น้ำมันพืช
วิธีทำ
นำเนื้อหมูมาหั่นเป็นแนวขวางให้หนาประมาณ 2 เซนติเมตร จะได้เนื้อหมู 4 ชิ้น แต่ละชิ้นกรีดตรงกลางชั้นให้เป็นร่อง จากผสมเกลือพริกไทย และผงปรุงรสเข้าด้วยกัน
จากนั้นนำสับปะรดมาปอก แล้วฝานเป็นแว่นแบ่งครึ่ง คว้านเอาแกนออก แล้วสอดชิ้นสับปะรด ใส่ร่องเนื้อหมูที่กรีดเตรียมไว้
ใช้ไม้กลัดหรือไม้จิ้มฟันเสียบปากร่อง  อย่าให้ชิ้นสับปะรดหลุดได้ ทอดจนเนื้อหมูสุกและเหลืองทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือเสิร์ฟกับมันฝรั่งทอด
แบบเฟรนช์ฟรายส์









สลัดไก่สับปะรด
ส่วนผสม    
เนื้อไก่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า                    1/2          ถ้วย       
สับปะรด                                              1             ลูก
แอปเปิ้ลหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า                  1             ผล
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ                          2-3          ต้น
มายองเนส                                          1/4           ถ้วย
โยเกิร์ตชนิดข้น                                  1/4           ถ้วย
ผักกาดหอมพอประมาณ
มะเขือเทศหั่นเป็นแว่น                       1-2          ลูก
วิธีทำ
ผ่าสับปะรดครึ่งลูกตามยาว คว้านเอาเนื้อออก จากนั้นหั่นเนื้อสับปะรดให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ลวกเนื้อไก่ให้สุก หั่นแอปเปิ้ลเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าแช่น้ำมะนาวสักพัก แล้วตักขึ้นใส่ภาชนะพักไว้ ผสมมายองเนส โยเกิร์ตเข้าด้วยกัน นำเนื้อไก่ สับปะรด แอปเปิ้ล ขึ้นฉ่ายผสมเข้าด้วย เทลงในผลสับปะรด แล้วตกแต่งด้วยผักกาดหอม และมะเขือเทศหั่นแว่น นำไปเสิร์ฟ

                                                         
ผัดไทยใส่สับปะรด
ส่วนผสม
ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์                         1             กำมือ
เต้าหูราชบุรี                                     1/4          ก้อน
กุ้งแห้งติดเปลือก                             1            ช้อนโต๊ะ
ถั่วงอก                                             1             กำมือ
กุยช่าย                                            2-3             ต้น
สับปะรดหั่น                                     1            ถ้วยตวง
กระเทียมบุบ                                  2-3              กลีบ
ตังฉ่าย                                              1            ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำมันพืช มะนาว
วิธีทำ
เอาน้ำมันใส่กระทะ ผัดกระเทียมก่อน แล้วผัดก๋วยเตี๋ยว ใส่เต้าหูกุ้งแห้ง ถั่วงอก กุยช่าย สับปะรด ตังฉ่าย ถั่วลิสง พริกป่น ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา สุกแล้วตักใส่จาน ถ้ายังเปรี้ยวไม่พอให้บีบมะนาวทีหลัง เป็นการเพิ่มรสชาติ